DGB Clinic & Esthetic มิติใหม่แห่งการดึงหน้า ดูเด็กจนโกงอายุ
         สำหรับใครที่มีปัญหาริ้วรอยบนใบหน้า คุณไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะที่นี่สามารถแก้ไขปัญหาให้คุณได้อย่างตรงจุด ใช้เทคนิคเฉพาะของทางคลินิกที่รับประกันด้านความปลอดภัย เรามีห้องผ่าตัดที่เป็นส่วนตัว มีอุปกรณ์การผ่าตัดที่ทันสมัย รวมไปถึงทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมดึงหน้าโดยตรง พร้อมให้คำปรึกษาอย่างตรงจุด เราปรับสไตล์ใบหน้าตามปัญหาเฉพาะบุคคล ดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิด ขณะผ่าตัดดึงหน้าคุณจะไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่นิดเดียว ใช้เทคนิคการซ่อนแผลตามแนวไรผม และขอบใบหู แผลเนียน ไร้รอย ช่วยคืนความมั่นใจให้กับคุณได้อีกครั้ง

          ความร่วงโรยตามกาลเวลาเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่เทคโนโลยีช่วยให้เราปรับเปลี่ยน และแก้ไขให้ดีขึ้นได้ การผ่าตัดศัลยกรรมดึงหน้า เป็นวิธีที่ปลอดภัย เห็นผลชัดเจน ให้ผลลัพธ์ยาวนาน การผ่าตัดช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้คุณได้อีกครั้ง แม้ว่าคุณจะอายุมากแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตามคุณควรเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เลือกคลินิกที่ได้คุณภาพ รักษาภายใต้มาตรฐานระดับสากลอย่าง DGB Clinic & Esthetic เพื่อลดความเสี่ยง และมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ

Face lift ดึงหน้าลดอายุ บอกลาหน้าไม่กระชับ คืนความอ่อนเยาว์ ดุจสาวแรกรุ่น
       การศัลยกรรมดึงหน้าก็เหมือนการตัดชุด เพราะเราต้องเลือกความงามที่เข้ากับตัวเองให้ได้มากที่สุด ยิ่งปัจจุบันคนหันมาดูแลตัวเองมากขึ้น เนื่องจากภาพลักษณ์ส่งผลต่อหน้าที่การงาน ความน่าเชื่อถือ และหลาย ๆ ปัจจัยที่ทำให้ความสวยงามเริ่มมีบทบาทมากขึ้น หนึ่งในศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ การศัลยกรรมดึงหน้า เพื่อแก้ไขปัญหารอยย่นบริเวณหน้าผาก หางตา แก้ม คาง และบริเวณคอ คุณสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยการผ่าตัดดึงหน้า เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้กับใบหน้า และเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง

การศัลยกรรมดึงหน้าคืออะไร ?
        ศัลยกรรมดึงหน้า เป็นการผ่าตัดที่ช่วยแก้ไขปัญหาหย่อนคล้อยบนใบหน้า และริ้วรอยต่าง ๆ ได้อย่างตรงจุด เป็นการยกกระชับกล้ามเนื้อ ไขมันใต้ผิวหนังไปไว้ยังตำแหน่งที่เหมาะสม การผ่าตัดสามารถเลือกทำเฉพาะส่วนได้ เช่น การดึงหน้าผาก การยกคิว ดึงหน้าส่วนกลาง การยกโหนกแก้ม การดึงหน้าส่วนล่าง การแก้ไขเหนียงใต้คาง และการดึงคอ วิธีนี้ช่วยให้ผิวหน้าที่หย่อนคล้อยดูเรียบเนียนเหมือนสาวแรกรุ่นได้อีกครั้ง ช่วยคืนความอ่อนเยาว์อย่างเป็นธรรมชาติ เป็นเทคนิคที่ฟื้นตัวได้ไว ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน

Check List ตัวเองก่อนศัลยกรรมดึงหน้า
        เมื่ออายุไม่ได้เป็นเพียงตัวเลข ถ้าอย่างงั้นเรามาดูกันว่าใครบ้างที่เหมาะกับการทำศัลยกรรมดึงหน้า ในกรณีที่ยังมีริ้วรอยไม่มากนัก แพทย์อาจจะแนะนำให้กระชับใบหน้าด้วยวิธีอื่นไปก่อน เช่น โบท็อก หรือร้อยไหม แต่ถ้าคนไข้อายุ 45 ปีขึ้นไป ผิวมีความหย่อนคล้อยมากจนไม่สามารถใช้วิธีดังกล่าวได้ แพทย์ถึงจะแนะนำให้ผ่าตัดดึงหน้า งั้นเรามาดูกันว่าการศัลยกรรมดึงหน้าเหมาะกับใครบ้าง ?
        - ผู้ที่มีอายุ 45-6O ปีขึ้นไป
        - มีปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นตามส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า
        - ผู้ที่อยากให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
        - ผู้ที่การฉีดโบท็อก ร้อยไหม ไม่สามารถตอบสนองให้ตรงตามความต้องการได้
        - ผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก
        - ผู้ที่มีร่องลึกตามลำคอ และเหนียงบริเวณคอ

---------------------------------------------------------------

การผ่าตัดดึงหน้า สามารถแบ่งได้หลายส่วนดังนี้

1) Full-face Lift คือ การผ่าตัดดึงหน้าทุกส่วนทั้งส่วนบน กลาง ล่างและลำคอ
            การผ่าตัดล็อคใบหน้าแบบยาวทั้งช่วงบนและช่วงล่าง เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุเยอะ มีปัญหาความหย่อนคล้อย ใบหน้ามีความชรา แต่อยากย้อนวัยให้ใบหน้ากลับไปดูอ่อนเยาว์อีกครั้ง

2) Forehead Lift คือ การผ่าตัดดึงเฉพาะหน้าผาก
                การผ่าตัดล็อคใบหน้าบริเวณหน้าผาก ที่จะช่วยทำให้ริ้วรอยบริเวณหน้าผาก คิ้ว หางตา ขมับนั้นหายไป ทำให้ใบหน้าช่วงบนดูอ่อนเยาว์ตึงกระชับ เห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน

3) Brow Lift คือ การผ่าตัดยกคิ้ว ทำให้ดวงตาโตขึ้น คิ้วยกขึ้น
                เป็นการผ่าตัดแก้ปัญหาผู้ที่มีปัญหาคิ้วตก จะช่วยล็อคช่วงคิ้วให้สมมาตรกับบริเวณดวงตามากขึ้น ทำให้ใบหน้าบริเวณช่วงบนดูสดใส ไม่ดูมีอายุ ไม่ดูอ่อนเพลีย ทั้งนี้การผ่าตัดล็อคคิ้วทำได้ทั้งล็อคเฉพาะจุด และล็อคยาว ขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาของแต่ละคน

4) Midface Lift คือ การผ่าตัดดึงใบหน้าส่วนกลาง แก้ม ส่วนล่างของตา
                การผ่าตัดล็อคใบหน้าช่วงกลางและช่วงล่าง แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยบริเวณช่วงแก้ม มีร่องแก้ม ร่องน้ำหมากที่เห็นชัด ช่วยให้ใบหน้าช่วงล่างนั้นเต่งตึง ดูอ่อนเยาว์ และใบหน้าเข้ารูปยิ่งขึ้น

                 ใบหน้าส่วนกลาง คือ ส่วนของใบหน้าบริเวณระหว่างใต้เปลือกตาล่างจนมาถึงสุดปลายจมูกและมุมปาก มีส่วนสำคัญที่ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ไม่ว่าจะเป็นหางตา ใต้ดวงตา แก้ม และมุมปาก เมื่ออายุมากขึ้น เนื้อเยื่อผิวหนัง ไขมัน และกล้ามเนื้อ ที่อยู่ในบริเวณนี้ก็จะเคลื่อนตัวต่ำลง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของใบหน้าทำให้ใบหน้าดูแก่ ไม่อ่อนเยาว์ อีกทั้งปัญหาแก้มห้อยย้อยหรือแบนราบ เปลือกตาล่างเกิดเป็นถุงใต้ตาหรือไม่ก็เป็นหลุม ทำให้เห็นเป็นวงรอบดวงตา มีเส้นลึกที่ร่องแก้ม และมุมปาก
การแก้ไขที่ให้ได้ผลคงอยู่ยาวนาน จำเป็นต้องผ่าตัดยกกระชับผิวหรือเก็บผิวบางส่วนที่มีปัญหาริ้วรอยหรือกล้ามเนื้อที่หย่อนคล้อย

5) Neck Lift คือ การผ่าตัดดึงเฉพาะบริเวณลำคอ
                 ผ่าตัดล็อคบริเวณเหนียงคอ เนื่องจากผู้ที่มีอายุเยอะ มันจะมีความหย่อนคล้อยบริเวณคอ ทำให้คอพับเป็นชั้น ส่งผลให้ใบหน้าดูใหญ่ การล็อคบริเวณเหนียงคอนี้จะช่วยให้ผิวหนังตึงกระชับ และใบหน้าเข้ารูปอย่างเห็นได้ชัดอีกด้วย

การเตรียมตัว ก่อนการผ่าตัดศัลยกรรม ดึงหน้า ดึงคิ้ว ยกคิ้ว ดึงคอ

    1. งดยาแก้ปวด ยาละลายลิ่มเลือด ก่อนผ่าตัด เช่น Aspirin หรือ Ibuprofen, ก่อนผ่าตัดประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อลดอาการฟกช้ำจากเลือดคั่งหลังผ่าตัด อย่างน้อย 1 สัปดาห์, แต่กรณีที่จำเป็นต้องใช้ กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่
    2. งดรับประทานวิตามิน น้ำมันตับปลา และอาหารเสริม ทุกชนิด อย่างน้อย 2 สัปดาห์
    3. งดดื่มน้ำ และรับประทานอาหาร ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 8 ชั่วโมง
    4. งดสูบบุหรี่ , งดดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 1 สัปดาห์
    5. ผู้ที่มีความดันสูง ต้องควบคุมให้ความดันเป็นปกติก่อนผ่าตัด 2 สัปดาห์
    6. แจ้งให้แพทย์ทราบข้อมูล หากคุณมีโรคประจำตัว, การทานยารักษาโรคประจำตัว, ประวัติการผ่าตัด, ประวัติการแพ้ยา, ประวัติการแพ้อาหาร (หากมีประวัติการรักษาจากโรงพยาบาล ควรนำมาในวันที่ปรึกษาด้วย)
    7. แผลผ่าตัดจะอยู่บริเวณหลังหู ผู้ที่ใว้ผมแบบเปิดหูอาจจะต้องเปลี่ยนทรงผมเพื่อไม่ให้เห็นแผลจากการผ่าตัด
    8. ถอดโลหะทุกชนิดอออกจากร่างกาย ก่อนเข้ารับการผ่าตัด เช่น กิ๊ฟต่อผม เครื่องประดับ เล็บปลอม ต่างหู จิวสะดือ ฯลฯ
    9. ใช้ระยะเวลาในการฟักฟื้น ประมาณ 7-1O วัน 
    1O.งดการทำเลเซอร์ ร้อยไหมบริเวณใบหน้า รวมไปถึงงดการเจาะ/สักร่างกาย หรืออาบแดด

การดูแล หลังการผ่าตัดศัลยกรรม ดึงหน้า ดึงคิ้ว ยกคิ้ว ดึงคอ

   1. ประคบเย็นรอบบริเวณที่ผ่าตัด  ควรประคบเย็นบริเวณที่ผ่าตัดจุดละ 2O-3O วินาที ทำอย่างน้อยวันละ 4 รอบ คือ เช้า กลางวัน เย็น และ ก่อนนอน เป็นเวลา 3 วัน จากนั้น ให้ประคบอุ่นอีก 3 วัน การที่เราประคบบ่อยครั้งจะยิ่งช่วยสมานแผล และช่วยให้แผลยุบบวมเร็วขึ้น

   2. ลางานเพื่อพักฟื้นอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ควรหยุดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อลดการกระทบกระเทือนและลดการบวมช้ำของแผล รวมไปถึงการออกกำลังกายทุกประเภท

   3. หลังการผ่าตัดใบหน้าจะมีอาการบวมช้ำประมาณ 2 สัปดาห์ คนไข้สามารถสระผม ล้างหน้า แปรงฟัน ได้หลังจาก 1 วันของการผ่าตัด

   4. ควรนอนยกศีรษะสูงในช่วง 7 วันแรก และงดนอนทับบริเวณที่ผ่าตัดศัลยกรรม การนอนทับบริเวณที่ผ่าตัด จะยิ่งทำให้แผลหายช้าและยุบบวมได้ช้าลง ซึ่งอาจจะทำให้แผลติดเชื้อได้ง่ายขึ้นด้วย

   5. ทำแผลบริเวณที่ผ่าตัดอย่างน้อยวันละ 4 ครั้ง การทำแผล ควรทำทั้ง เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน โดยให้ทำแผลด้วยน้ำเกลือ และที่สำคัญก่อนทำแผลควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้แผลเกิดการติดเชื้อได้

   6. งดรับประทานเหล่านี้หลังศัลยกรรม งดรับประทานอาหารหมักดอง อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ อาหารทะเล แอลกอฮอล์ อาหารที่มีโซเดียมสูงหรือมีรสเค็ม เช่น มาม่า โจ๊กคัพ และงดสูบบุหรี่ เป็นเวลา 1 เดือน หากไม่ปฏิบัติตามข้อห้ามแผลอาจติดเชื้อได้

   7. มาคลินิกตามกำหนดที่มีการนัดไว้ ควรมาคลินิก ตามวันและเวลาที่นัดไว้ ไม่ว่าจะเป็นการนัดตัดไหม หรือนัดติดตามอาการ เพราะหากพบความผิดปกติใด ๆ จะได้ทำการรักษาได้ทันท่วงที ไม่ปล่อยให้เกิดปัญหาจนลุกลามไป

   8. หลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดโดยตรงเป็นเวลา 3-6 เดือน